เป็นไม้มีขนาดเล็ก โคนลำต้นอยู่ใต้ดิน พอพ้นจากใต้ดิน จะมีใบแตกออกข้างเป็นแผงใบยาวรี ยาวประมาณ ๔๐ ถึง ๕๐ เซนติเมตร ต้นสูงประมาณ ๕๐ เซนติเมตรถึง ๑ เมตร ใบสีเขียว มีคราบขาวนวล ใบเรียบปลายใบแหลม ดอกมีสีเข้ม สลับเหลือง ขยายพันธ์ด้วยหน่อ
สรรพคุณ
ในทางการแพทย์ในชนบท ท่านใช้ใบว่านนี้ จำนวน ๓ ใบ ปรุงเป็นยาต้ม ยาระบาย และแก้ระดูพิการในผู้หญิงอีกด้วย ในตำราแพทย์แผนโบราณ สามารถใช้แก้โรคที่เกิดจากคุณทางไสยศาสตร์ ลมเพลพัด
ต้น แก้คุณอันบุคคลกระทำทาง หนัง
ใบแก้คุณอันบุคคลกระทำทาง เนื้อ
ดอก แก้คุณอันบุคคลกระทำทาง ผม
ราก แก้คุณอันบุคคลกระทำทาง กระดูก
ว่านชนิดนี้นอกจากทางยาแล้ว ยังมีประโยชน์ในการแก้คุณไสย และปลูกเพื่อความเป็นศิริมงคล ในบ้านก็ดีนักแล
วิธีปลูก
ปลูกกับดินร่วน หรือปนทราย เป็นว่านที่ชอบแดดอย่างมาก รดน้ำวันละครั้งพอ ควรปลูกในสถานที่ไม่มีคนเดินข้าม นิยมปลูกวันอังคาร วันครูวันพฤหัส และวันเสาร์ ลักษณะ
เป็นไม้มีขนาดเล็ก โคนลำต้นอยู่ใต้ดิน พอพ้นจากใต้ดิน จะมีใบแตกออกข้างเป็นแผงใบยาวรี ยาวประมาณ ๔๐ ถึง ๕๐ เซนติเมตร ต้นสูงประมาณ ๕๐ เซนติเมตรถึง ๑ เมตร ใบสีเขียว มีคราบขาวนวล ใบเรียบปลายใบแหลม ดอกมีสีเข้ม สลับเหลือง ขยายพันธ์ด้วยหน่อ
สรรพคุณ
ในทางการแพทย์ในชนบท ท่านใช้ใบว่านนี้ จำนวน ๓ ใบ ปรุงเป็นยาต้ม ยาระบาย และแก้ระดูพิการในผู้หญิงอีกด้วย ในตำราแพทย์แผนโบราณ สามารถใช้แก้โรคที่เกิดจากคุณทาง ไสยศาสตร์ ลมเพ ลมพัด
ต้น แก้คุณอันบุคคลกระทำทาง หนัง
ใบแก้คุณอันบุคคลกระทำทาง เนื้อ
ดอก แก้คุณอันบุคคลกระทำทาง ผม
ราก แก้คุณอันบุคคลกระทำทาง กระดูก
ว่านชนิดนี้นอกจากทางยาแล้ว ยังมีประโยชน์ในการแก้คุณไสย และปลูกเพื่อความเป็นศิริมงคล ในบ้านก็ดีนักแล
วิธีปลูก
ปลูกกับดินร่วน หรือปนทราย เป็นว่านที่ชอบแดดอย่างมาก รดน้ำวันละครั้งพอ ควรปลูกในสถานที่ไม่มีคนเดินข้าม นิยมปลูกวันอังคาร วันครูวันพฤหัส และวันเสาร์